"ไม่ต้องใช้ยา...ไม่ต้องผ่าตัด"
รีวิวการรักษา
ขอขอบคุณเพจ "Wongnai Beauty" ที่มารักษา "ออฟฟิศซินโดรม" กับเรานะคะ :)
ขอขอบคุณ "คุณบอล" จาก BALL2PLAY ที่มารักษาอาการ "ชาร้าวลงแขน" นะคะ :)
ขอขอบคุณ "ช็อคเกอร์บอย" ที่มารักษาอาการ "ปวดหลัง" กับเรานะคะ :)
“ไม่ต้องใช้ยา...ไม่ต้องผ่าตัด"
พีซ คลินิกกายภาพบำบัด
รักษาอาการ :
รายละเอียดการรักษา :
ปรึกษานักกายภาพบำบัด(ฟรี) หรือจองคิวรักษา
Facebook : พีซ คลินิกกายภาพบำบัด
Add LINE : @peace-clinic


กายภาพบำบัด คือ
กายภาพบำบัด (PhysicalTherapy : PT) คือ ศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพด้วยการออกกำลังกายร่วมกับการใช้เทคนิคต่าง ๆ และอุปกรณ์พิเศษในการบริหารร่างกาย เช่น การดึง การนวด หรือการประคบ เพื่อช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ที่เข้ารับการรักษาให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ปกติ โดยส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวด บาดเจ็บ และได้รับผลข้างเคียงจากการเจ็บป่วยจนส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวันได้ไม่เต็มที่ ซึ่งก็รวมไปถึงผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน
สำหรับการทำกายภาพบำบัดนั้นจะมีการใช้เทคนิคต่าง ๆ ร่วมด้วย และมีการดูแลโดยนักกายภาพบำบัดที่จะมีการปฏิบัติตามหลักวิทยาศาสตร์การรักษา ซึ่งขั้นตอนการทำกายภาพในเบื้องต้นจะต้องมีการประเมินอาการ เพื่อทำการทดสอบในการหาแนวทางการรักษาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการรักษาของคนไข้แต่ละราย
วิธีการเลือกคลินิกกายภาพบำบัด
ใครที่เริ่มมีอาการปวด ๆ ตึง ๆ แล้วอยากมองหาคลินิกทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มอย่างไรดี ในวันนี้เรามีวิธีการเลือกคลินิกกายภาพบำบัดแบบฉบับเข้าใจง่ายมาให้ทุกคนได้ลองใช้เป็นแนวทางดู
เลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่มีนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา
สำหรับอาการบาดเจ็บเรื้อรังต่าง ๆ หากรักษาไม่ถูกวิธีอาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม และทำให้อาการไม่หายขาด ดังนั้นการเลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่มีนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญให้บริการก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการรักษาที่ดี ซึ่งผู้ที่ทำกายภาพบำบัดจะต้องมีการศึกษาเฉพาะทางด้านการทำกายภาพบำบัด เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิทยา ประสาทวิทยา และการทำกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยภาวะต่าง ๆ
นอกจากนี้ นักกายภาพบำบัดจะต้องมีการสอบใบประกอบวิชาชีพ เพื่อทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดตามสถานที่ต่างๆ ได้ คุณจึงควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าคลินิกมีนักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญและมีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ เพราะถ้าหากได้รับการรักษาอย่างไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการรักษาได้นั่นเอง
เลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่มีเครื่องมือทันสมัย
การทำกายภาพบำบัดนั้นนอกจากจะต้องใช้เทคนิคเฉพาะทางในการรักษาแล้ว การทำกายภาพในบางส่วนอาจจะต้องพึ่งพาเครื่องมือในการรักษาที่ทันสมัย เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยฟื้นฟูหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดได้รวดเร็วขึ้น การรักษาที่ใช้เครื่องมือ อย่างเลเซอร์ ช็อคเวฟ อัลตราซาวด์ และเครื่องมือกระตุ้นไฟฟ้า ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวแปรให้ผู้เข้ารับบริการมีอาการดีขึ้น โดยเครื่องมือเหล่านี้จะสามารถจะช่วยลดอาการบาดเจ็บเรื้อรังให้ดีขึ้นได้ และไม่ต้องพึ่งยาด้วย ส่วนผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวการใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็จะช่วยทำให้การเคลื่อนไหวกลับมาปกติได้เร็วขึ้น
เลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยในการทำกายภาพบำบัดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพื่อให้การรักษาได้ดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตามหลักของการกายภาพบำบัด เช่น การเลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นการรับรองว่าการรักษาที่ผู้เข้ารับบริการจะได้รับนั้นมีมาตรฐาน ปลอดภัย และเครื่องมือที่ใช้ก็ถูกต้องตามหลักของการทำกายภาพบำบัด นอกจากนี้ยังเป็นการรับรองคุณภาพของนักทำกายภาพบำบัดและแพทย์ผู้ให้บริการว่ามีความเชี่ยวชาญในการรักษาและตรงตามหลักปฏิบัติของศาสตร์กายภาพบำบัดด้วย
การทำกายภาพบำบัด ในคลินิกกายภาพบำบัดเป็นยังไง?
การทำกายภาพบำบัด ในคลินิกกายภาพบำบัด เป็นการฟื้นฟู และเสริมสร้างความสามารถในการใช้ร่างกายด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การดึง นวด ประคบ และอุปกรณ์เครืองมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัย ร่วมกับการบริหารร่างกายสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีอาการปวด หรือได้รับผลข้างเคียงจากอาการเจ็บป่วยจนทำกิจวัตรประจำวันได้ไม่เต็มที่
เทคนิคและวิธีการต่างๆ คลินิกกายภาพบำบัดจะปฎิบัติตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถแบ่งการรักษาจากคลินิกกายภาพบำบัดได้หลายอาการ เช่น
- กายภาพบำบัดระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
- กายภาพบำบัดด้านระบบประสาท
- กายภาพบำบัดด้านระบบทรวงอกหลอดเลือดและหัวใจ
- กายภาพบำบัดด้านกีฬา
- กายภาพบำบัดในชุมชน
- งานกายภาพบำบัดด้านอื่นๆ
โดยคลินิกกายภาพบำบัด ก็จะมีวิธีการทำ อุปกรณ์ และจุดประสงค์แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการ ซึ่งนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้แนะนำให้นั่นเอง
การทำกายภาพบำบัด ที่คลินิกกายภาพบำบัดช่วยอะไรได้บ้าง?
การทำกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพบำบัด มีจุดประสงค์หลักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และเสริมสร้างความสามาถในการใช้ร่างกาย เพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ดังนั้นการทำกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพบำบัดจะมุ่งเน้นที่การบรรเทาอุปสรรคที่ส่งผลต่อการใช้ร่างกายของคุณ อาจมีดังนี้
- บรรเทาอาการปวด
- ป้องกัน หรือฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บ
- ป้องกันความพิการ หรือลดโอกาสที่จะต้องผ่าตัด
- ป้องกันการล้มหรือลื่น โดยทำให้ร่างกายมีความสมดุลมากขึ้น
- มีส่วนช่วยให้ควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้มากขึ้น
- มีส่วนช่วยประคองอาการจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน
- มีส่วนช่วยให้ใช้แขนขาเทียมได้ดีขึ้น
- มีส่วนช่วยให้ใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ไม้เท้า ได้ดีขึ้น
- เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกาย
- ฟื้นฟูร่างกายหลังจากผ่าตัด
- ฟื้นฟูร่างกายของผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง
- ฟื้นฟูร่างกายหลังจากให้กำเนิดบุตร
โดยนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ให้คำแนะนำว่า ผู้ใช้บริการเหมาะกับการทำกายภาพบำบัดส่วนไหน และควรใช้เทคนิคใด
นักกายภาพบำบัดคืออะไร?
นักกายภาพบำบัด (Physical therapist) คือผู้ที่ได้รับการศึกษาเฉพาะทางด้านการทำกายภาพบำบัด เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิทยา ประสาทวิทยา และการทำกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยภาวะต่างๆ
โดยนักกายภาพบำบัดที่ผ่านการศึกษาเหล่านี้ จะมีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพ เพื่อทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดตามสถานที่ต่างๆ ได้
การไปพบนักกายภาพบำบัดมักทำได้โดยไม่ต้องรอให้แพทย์เป็นผู้ระบุว่าจำเป็นต้องใช้การกายภาพบำบัด แต่หากคุณมีอาการป่วยรุนแรง หรือได้รับบาดเจ็บหนัก นักกายภาพบำบัดอาจไม่ใช่ทางเลือกหลักในการรักษา และไม่สามารถทำหน้าที่แทนแพทย์ได้
กรณีนี้ แพทย์อาจเป็นผู้แนะนำให้ทำการรักษาด้วยกายภาพบำบัดเมื่อร่างกายพร้อม และนักกายภาพบำบัดจะทำการรักษาร่วมกับแพทย์
ระหว่างที่นักกายภาพบำบัดให้บริการ พวกเขาจะคอยประเมินอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาแผนการรักษาของคุณ ในบางท่าทางนักกายภาพบำบัดอาจใช้มือช่วยในการทำกายภาพบำบัดให้ผู้ใช้บริการด้วย
การทำกายภาพบำบัดจะช่วยให้คุณใช้ร่างกาย หรืออวัยวะที่ทำการรักษาในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะฟื้นฟูกลับมาได้ไวกว่าการทำด้วยตัวเองโดยไม่มีนักกายภาพบำบัดให้คำแนะนำ
กายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพบำบัด ทำอะไรบ้าง?
ในการทำกายภาพบำบัดแต่ละครั้ง จะแบ่งช่วงเวลาให้บริการออกเป็น 2 ช่วงหลักๆ
1. ประเมินอาการก่อนทำกายภาพบำบัด
ในการทำกายภาพบำบัดครั้งแรก นักกายภาพบำบัดในคลินิกกายภาพบำบัดอาจต้องประเมินอาการก่อน เพื่อให้สามารถกำหนดปัญหา และแผนการรักษาได้
โดยอาจถามคำถามทั่วไป เช่น ส่วนไหนที่มีอาการปวด อาการผิดปกติเป็นอย่างไร การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร การนอนหลับดีไหม รวมไปถึงประวัติการรักษา
นอกจากนี้นักกายภาพบำบัดอาจให้ทำการทดสอบเล็กน้อย ดังนี้
- ทดสอบความสามารถในการเคลื่อนไหวไปมา การหยิบจับ การโค้งงอตัว
- ทดสอบความสามารถการเดิน การปีนป่าย
- ทดสอบการเต้นของหัวใจ หรือจังหวะการเต้นระหว่างออกกำลังกาย
- ทดสอบความสามารถในการทรงตัว และความสมดุล
แม้ผู้ที่เคยทำกายภาพบำบัดในคลินิกกายภาพบำบัดไปแล้วก็อาจได้รับการสอบถามและทดสอบเช่นกันในบางกรณี เพื่อติดตามอาการและปรับแผนการรักษาตามคำแนะนำของคลินิกกายภาพบำบัด
2. ทำกายภาพบำบัด ตามแผนการรักษาของคลินิกกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดในคลินิกกายภาพบำบัด ในผู้ใช้บริการแต่ละคน อาจมีใช้จำนวนครั้ง ระยะเวลา และเทคนิคในการทำกายภาพบำบัดต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ แต่การทำกายภาพบำบัดหลักๆ ที่อาจพบในเบื้องต้น อาจมีดังนี้
- การออกกำลังกาย บริหารร่างกาย หรือการยืดกล้ามเนื้อตามคำแนะนำของคลินิกกายภาพบำบัด
- การนวด ประคบร้อน หรือประคบเย็น อาจมีการใช้อัลตราซาวด์กล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการปวดและอาการกระตุก
- บำบัดร่างกายเพื่อการใช้แขนขาเทียม
- ฝึกใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
คลินิกกายภาพบำบัดจะคอยดูความเปลี่ยนแปลงของคุณ และปรับเปลี่ยนแผนการรักษาหากจำเป็น
นอกจากนี้คุณยังสามารถนำท่าบริหาร่างกาย หรือออกกำลังกาย ที่นักกายภาพบำบัดแนะนำไปปฎิบัติที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณติดตามการปฎิบัติและปรับปรุงสภาพร่างกายได้สม่ำเสมอ
โดยสรุปแล้ว การทำกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพบำบัดไม่จำเป็นต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สั่ง หากมีอาการปวดจากการใช้งานอวัยวะต่างๆ ผิดท่า ก็สามารถมาใช้บริการกายภาพบำบัดได้เช่นกัน
แต่หากมีอาการป่วยรุนแรง หรือบาดเจ็บหนัก ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อน และอาจทำกายภาพบำบัดควบคู่กันเพื่อฟื้นฟูได้เมื่อแพทย์อนุญาต
นอกจากนี้ยังใช้เพื่อป้องกันการเสียสมดุลของร่างกาย ป้องกันล้ม ลื่น ในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรงได้ด้วย